วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Westlife - My Love

Westlife - Nothing's Gonna Change My Love For You [VietSub | Kara Effect...

Ladatipamon: ค ว า ม รั ก มั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ห ร...

Ladatipamon: ค ว า ม รั ก มั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ห ร...: ค ว า ม รั ก มั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ห รื อ? ใครต่อใครมักจะต้องเคยตั้งคำถามว่า ทำไมมีรักแล้วต้องมีทุกข์? ทำไมมีรักต้องเจ็...

ค ว า ม รั ก มั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ห รื อ?

ค ว า ม รั ก มั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ห รื อ?

ใครต่อใครมักจะต้องเคยตั้งคำถามว่า

ทำไมมีรักแล้วต้องมีทุกข์?
ทำไมมีรักต้องเจ็บปวด?
ทำไมมีรักต้องมีน้ำตา?

ทำไมรักไม่เป็นแบบนั้น
ทำไมรักไม่เป็นแบบนี้
ทำไมรักไม่เป็นในแบบที่เราต้องการ
          ????
นั่นเป็นเพราะ “ความรักออกแบบไม่ได้”

ปล่อยให้รักเป็นไปในแบบฉบับของความรัก
ถึงแม้นว่ารักนั้นจะออกมาในรูปแบบไหนก็ตาม
จงยอมรับไม่ว่าจะทุกข์ สุข เศร้า จะมีน้ำตา และรอยยิ้ม
...จงดีใจ ที่ในครั้งหนึ่ง...หัวใจคุณได้สัมผัสกับคำว่า “รัก”

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ต้นหอมและผักชี

ความรักของผักชีและต้นหอม

ก่อนกาลนานมาแล้ว... เจ้าชายผู้สง่างามแห่งอาณาจักรต้นหอมมีใจรักมั่นอยู่กับเจ้าหญิงแสนหวานแห่งเมืองผักชี แต่ความรักของทั้งสองนั้นมีอุปสรรคมากมาย


  " ไม่มีทางที่ต้นหอมจะรักกับผักชีได้ พันธุ์ผักชีต่ำเตี้ยเรี่ยดินเช่นนั้นรึจะมาเทียบชาวต้นหอมที่สูงส่งอย่างพวกเรา" ราชาต้นหอมยื่นคำขาด


  ส่วนราชาแห่งเมืองผักชีนั้นเล่าก็หมายตาเจ้าชายจากเมืองใ กล้ๆเอาไว้ให้เจ้าหญิงเช่นกัน


  "เจ้าชายคึ่นช่ายเหมาะกับลูกมากที่สุด แข็งแรง ซื่อตรง และสูงสง่า ไม่แพ้เจ้าชายต้นหอมเลย" ราชาผักชีพยายามหว่านล้อมเจ้าหญิง แต่ก็ไม่เป็นผล


  ถึงแม้จะถูกขัดขวางจากครอบครัวของทั้งสองฝ่าย แต่เจ้าชายและเจ้าหญิงก็ยังแอบมาพบกันเสมอในสวนเล็กๆแห่งหนึ่ง
  "จะมีที่ไหนในโลกอีกมั้ย ที่เราจะอยู่เคียงคู่กัน โดยไม่มีใครขัดขวาง"
เจ้าหญิงผักชีเอ่ย
  "ไม่ว่าไกลแสนไกลเพียงใด อยากลำบากเพียงไหน เราก็จะไปให้ถึงดินอดยอห่งนั้นให้จงได้" เจ้าชายให้คำมั่น


  ทั้งสองจึงวางแผนกันว่าจะแอบหนีไปด้วยกันในวันที่พระจันทร์เต็มดวง
  เมื่อถึงวันนัดหมาย ทั้งคู่พากันเดินทางไปจนเกือบจะพ้นดินแดนต้นหอม แต่ที่ตรงสุดเขตแดนนั้นเอง มีกองทหารของพระราชาต้นหอมเฝ้ายามอยู่อย่างแข็งขัน


  "เราจะผ่านทหารเหล่านี้ไปได้อย่างไรกัน" เจ้าหญิงกระซิบอย่างหวาดวิตก
  "อย่ากลัวไปเลย ยังมีอีกทางหนึ่งซึ่งจะพาเราออกจากดินแดนต้นหอมได้ แค่ไต่อ้อมไปทางหน้าผาที่ติดทะเลเท่านั้น" เจ้าชายอธิบาย "รับรองว่าไม่มีใครตามไปถูกแน่ๆเพราะทางออกด้านนี้เป็นความลับที่เคยใช้กันในสมัยปู่ของปู่เมื่อนานมาแล้ว"


  เจ้าชายกับเจ้าหญิงเดินทางต่อไปจนถึงทางออกสู่ทะเล แต่ที่แห่งนั้นอุปสรรคสำคัญที่สุดได้คอยทั้งคู่อยู่...พระราชาต้นหอมผู้โกรธเกรี้ยวนั่นเอง
  "เจ้ากล้าดีอย่างไงจึงขัดคำสั่งพ่อ" ราชาต้นหอมตะโกนก้องพร้อมเอื้อมมาถึงเจ้าชายให้แยกห่างออกจากเจ้าหญิงโดยทันที


  ด้วยความรีบร้อมผสมกับความโกรธ พระราชาที่อายุมากแล้วเกิดเสียหลักพลัดตกลงไปติดอยู่ตรงซอกหินริมหน้าผา โชคดีที่พระองค์ยังคว้าตัวเจ้าชายไว้ได้
  แต่ทว่า...พระราชาต้นหอมที่อวบอ้วน มีน้ำหนักมาก จนทำให้เจ้าชายต้นหอมรูปร่างผอมบาง ที่มีรากฝอยเล็กๆสั้นๆแทบจะยึดลำต้นกับดินไว้ไม่อยู่ ทั้งคู่เกือบจะพลัดตกลงไปในทะเลอยู่รอมร่อ


  ทันใดนั้นเอง...ลำต้นบอบบาง ทว่ามั่นคงด้วยความรักของเจ้าหญิงผักชีก็โอบล้อมเจ้าชายไว้ด้วยความรัก
  "อย่าทำเช่นนี้เลย ฉันไม่อยากให้เธอต้องตกลงไปพร้อมเราพ่อลูก ปล่อยมือเสียเถิด" เจ้าชายกล่าวอย่างเป็นห่วง
  "จะไม่มีใครตกลงไปทั้งนั้น ถึงต้นฉันจะดูบอบบาง แต่รากแก้วของฉันหยั่งลึก ลงไปในดินอย่างมั่นคง ไม่มีวันสั่นคลอน" เจ้าหญิงกล่าวพลางยิ้มหวาน และกอดเจ้าชายแน่นยิ่งขึ้นไปอีก


  ในเวลาต่อมา เมื่อพระราชาและเจ้าชายได้รับการช่วยเหลือให้กลับขึ้นมาอย่างปลอดภัย พระราชาต้นหอมผู้ยิ่งใหญ่หันไปกล่าวคำขอบใจแก่เจ้าหญิงด้วยท่าทีสุภาพอ่อนโยน ก่อนที่จะหันกลับมาประกาศก้องกับทหารและประชานที่ห้อมล้อมว่า
  "นันแต่นี้...เราจะไม่ขัดขวางความรักระหว่างเจ้าชายต้นหอมและเจ้าหญิงผักชีอีก ขอให้ทั้งสองอยู่เคียงคู่กันอย่างมีความสุขตลอดไป" พระราชาให้พร
  และเรื่องราวต่างๆต่อมาก็เป็นไปตามคำกล่าวนั้น


  เจ้าชายต้นหอมกับเจ้าหญิงผักชีอยู่เคียงคู่กันในทุกๆที่ ไม่ว่าจะเป็นดินแดนแคว้นใด แห่งหนตำบลไหน หรือแม้แต่ในชามก๋วยเตี๋ยว
  และเป็นตัวแทนของความรักอันมั่งคงเสมอมา

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Ladatipamon: เราจะรักกันได้ไหม...ถ้าเราต่างกันมาก

Ladatipamon: เราจะรักกันได้ไหม...ถ้าเราต่างกันมาก:   คนเรามีความแตกต่างกันทุกคน           ไม่มีใครเหมือนกันเลยในโลก           แต่จะมีสักกี่คน           ที่เดินไปบนเส้นทางเดียวกันได้อย่...

เราจะรักกันได้ไหม...ถ้าเราต่างกันมาก

  คนเรามีความแตกต่างกันทุกคน
          ไม่มีใครเหมือนกันเลยในโลก
          แต่จะมีสักกี่คน
          ที่เดินไปบนเส้นทางเดียวกันได้อย่างไม่เคอะเขิน
          ความรัก มีเงื่อนไขมากมายอย่างที่ฉันว่าจริงๆ 
          เพราะความรักระหว่างคู่รัก 
          ทั้งเขาและเธอต่างก็มุ่งปรารถนาที่จะมาอยู่ร่วมกัน 
          ใช้ชีวิตด้วยกัน ไปไหนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน 
          ทำอะไรหลายอย่างร่วมกัน จนถึงขั้นสร้างครอบครัวด้วยกัน 
ความรักในรูปแบบนี้จึงมีปัจจัยหลายอย่าง
          ที่ทำให้คนสองคนต้องคิดมากกว่าคำว่า "รัก" 

          เมื่อก่อนตอนที่เรายังไม่มีคู่ 
          ฉันกับเขาต่างคนต่างมีความฝันของตัวเอง 
          แต่เมื่อฉันมีแฟน...
          ความฝันนั้นก็ควรสอดคล้องต้องกันได้ 
          หรือสามารถปรับจนหาจุดสมดุลได้ 
          ไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปลี่ยน 
          ก็ต่างฝ่ายต่างยินดีเปลี่ยน
          เพื่อให้วันข้างหน้าสามารถมาบรรจบกันได้ 
          เหมือนอย่างกับพี่คนหนึ่งที่เคยพูดกันฉันว่า...
          ถ้ามีแฟน...แม้เรายังไม่ตัดสินใจเลือกเขามาร่วมชีวิตคู่ 
          เราก็ควรคุยกันว่าต่างคนต่างมีเป้าหมายชีวิตอย่างไร 
          แต่งงานกันแล้วจะเป็นยังไง ไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร มีลูกกี่คน 
     
          แต่ถ้าคิดกันไปคนละอย่าง 
          มองกันไปคนละมุม 
          เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย 
          ความต่างกัน ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะรักกันไม่ได้ 
          เพราะคู่รักส่วนใหญ่ก็มักมีอะไรหลายอย่างเหมือนกัน 
          และก็มีอะไรหลายอย่างต่างกันเช่นกัน 
    แต่ส่วนต่างที่เกิดขึ้น 
          ทำให้อีกฝ่ายมองเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยได้หรือเปล่า 
          หากเป็นเรื่องใหญ่ ความรักก็มักจะจบลงตรงคำว่า "เราไปกันไม่ได้" 
          
          แต่หากเราได้พูดคุยกันเพื่อขยับเส้นทางให้เดินมาชนกันได้ 
          ลดอะไรบางอย่างในตัวเองลงหรือเพิ่มอะไรบางอย่าง 
          เข้ามาในชีวิตอย่างเต็มใจ 
          เราจะเดินไปด้วยกันได้ในเส้นทางใหม่
          ที่เรายินยอมพร้อมใจกับเลือกทั้งสองคน






วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คุณเคยรักใครเหมือนนกนางแอ่นไหม? มีนกนางแอ่นสายพันธุ์หนึ่ง

     เกิดมามีคู่เดียวรักเดียวใจเดียว คู่ของมันโดนรถชนตาย ตัวผู้เลยเข้าไปดูตัวเมียแล้วร่ำไห้

      ร้องตะโกนหาคนที่ชนคู่ของมัน....แต่ตัวเมียได้ตายเสียแล้ว ...!!

                 ตามธรรมชาตินกพันธุ์นี้จะไม่ยอมมีคู่อีก...และมันจะเป็นเช่นนี้ทุกคู่ไป

                        และผลสุดท้ายของความรักของนกคู่นี้คือ.....

                               ตัวผู้จะนอนกกศพตัวเมียจนกว่ามันจะ

                      หมดแรงขาดใจตายไปในที่สุด ตายตามคนที่รักไป.......


                            แล้วในหนึ่งชีวิตของคุณ เคยรัก ใคร

     แล้วทุ่มเททั้งชีวิตแบบนี้หรือเปล่า.......ไม่ขอให้เทียบเท่าแค่ขอให้ยาวนาน 
 
 

วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Ladatipamon: มนุษย์ทุกคนล้วนมีความฝัน และ “ความฝัน” ก็มี “ความจ...

Ladatipamon: มนุษย์ทุกคนล้วนมีความฝัน และ “ความฝัน” ก็มี “ความจ...: มนุษย์ ทุกคนล้วนมีความฝัน และ “ความฝัน” ก็มี “ความจริง” เป็นข้อจำกัดหรือขีดจำกัดของมัน ผมหมายถึง ทุกครั้งที่เราฝัน (ไม่ว่าจะโดยการเพ้อฝ...
มนุษย์ ทุกคนล้วนมีความฝัน และ “ความฝัน” ก็มี “ความจริง” เป็นข้อจำกัดหรือขีดจำกัดของมัน ผมหมายถึง ทุกครั้งที่เราฝัน (ไม่ว่าจะโดยการเพ้อฝันกลางวันหรือนอนฝันกลางคืน) เราจะสามารถคิด สามารถเป็น สามารถมี และสามารถทำในสิ่งที่เราอาจจะทำได้ยากในโลกแห่งความเป็นจริง
อย่างไร ก็ตาม เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับการมีความฝัน ความฝันจะนำเราไปในทางที่เราคิดจะเป็น ความฝันจะนำเราไปสู่ความเป็นตัวตนของเราในแต่ละห้วงเวลา และความฝันก็คือสิ่งที่เป็นของของเราโดยแท้ ความฝันของใครก็ของมัน ไม่มีใครขโมยหรือแย่งชิงไปจากใครได้หรอก


เมื่อ เราผิดหวัง สิ้นหวัง เมื่อเราท้อแท้ เหนื่อยหน่าย หรือเมื่อเราเจอกับเรื่องราวที่ไม่อยากเจอในโลกแห่งความจริง เราก็เลือกที่จะหันกลับไปใช้ชีวิตในอีกรูปแบบ ที่เรารู้สึกว่ามันจะไม่ทำร้ายจิตใจเราให้แย่ไปกว่าเดิม นั่นคือ
1. “วิ่งหนีความจริง” และ 2. “วิ่งตามความฝัน”
แม้ ความฝันจะเป็นสิ่งที่งดงามสำหรับเรา แต่ในบางครั้งบางเวลา ก็เหมือนกับว่าเรากำลังตกลงไปอยู่ในหลุมพลางแห่งความฝัน จนหลงลืมและละเลยที่จะใช้ชีวิต ลืมการก้าวเดินและลงมือทำตามความฝัน กล้าที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคปัญหาและค้นพบความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่ง ความเป็นจริงไป

เรา อาจฝันว่า เราได้ออกเดินทางไปรอบโลก เราเป็นคนรวยที่สุด เรามีคนรักที่หล่อ/สวยที่สุด เราทำอะไรๆ ได้สำเร็จที่สุด แต่ผมพบว่า ความฝันคือความว่างเปล่า ผมกำลังพูดถึง ความฝันมันไม่มีตัวตนเลย ไม่ว่าเราจะฝันดีและรู้สึกดีกับความฝันมากแค่ไหน ในความเป็นจริงมันก็คือความว่างเปล่า
แต่ ไม่ว่าจะอย่างไรเสีย ผมยังก็เชื่อเสมอว่า เราไม่ควรหยุดที่จะฝัน การทำตามความฝันเป็นสิ่งที่ดี และมันควรเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย เราควรใช้ความฝันเป็นแรงผลักดันให้เราลงมือทำ “สร้างความว่างเปล่าให้จับต้องได้จริงๆ” นั่นแหละเป็นผลลัพธ์ที่หอมหวานที่สุดของการได้เดินตามความฝัน

แม้ ความฝันจะเป็นเพียงความว่างเปล่า แต่ก็มีหลายคนในโลก พยายามที่จะหยุดฝัน แล้วลงมือทำบางอย่าง เพื่อทำให้ความว่างเปล่าที่ว่า มันมีความหมายกับคนรอบข้างในความเป็นจริง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง


ความ หมายที่แท้จริงในการมีชีวิต จึงไม่ได้อยู่ในความฝันใดๆ “แต่มันอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงนี่แหละ” ยิ่งไปกว่านั้น มันอาจซ่อนอยู่ภายในตัวของเรานี่เอง
ใน ความฝัน เราอาจได้ครอบครองคนที่สุดแสนดี หรือเราอาจได้เดินทางไปไกลแสนไกล เพื่อแสวงหาความสุข ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง เราอาจไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เดินทางรอบโลกมาเยอะที่สุด หรือรวยที่สุด หรือมีแฟนหล่อสวยที่สุด หรือทำอะไรได้สำเร็จที่สุด แต่อาจเป็นการที่เราค้นเจอความหมายแห่งความสุขที่ซ่อนอยู่ 2 เซนติเมตรข้างในหน้าอกของเรา ยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งที่เรามีในวันนี้ตอนนี้ และหาความสุขจากสิ่งเหล่านั้นอย่างรู้คุณค่าของมันจริงๆ เท่านั้นเอง


วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Ladatipamon: มีเรื่องเล่าดีๆ ให้แง่คิด มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่าน...

Ladatipamon: มีเรื่องเล่าดีๆ ให้แง่คิด มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่าน...: มีเรื่องเล่าดีๆ ให้แง่คิด มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่านกันค่ะ ------------------------------------------------------------ -อย่าได้ตัดสินผู้...
มีเรื่องเล่าดีๆ ให้แง่คิด มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่านกันค่ะ
------------------------------------------------------------
-อย่าได้ตัดสินผู้อื่น-

คุณหมอท่านหนึ่งกำลังวิ่งเข้าสู่โรงพยาบาลด้วยความเร่งรีบ
หลังจากที่ถูกโรงพยาบาลโทรตามเพื่อไปผ่าตัดฉุกเฉินให้ผู้ป่วยเด็กรายหนึ่ง
เขารีบร้อนไปที่โรงพยาบาลทันทีที่ได้รับรายงานเรื่องผู้ป่วย เปลี่ยนชุดผ่าตัด
และตรงไปยังห้องผ่าตัดโดยเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

ที่ทางเดินหน้าห้องผ่าตัด เขาได้พบกับพ่อของเด็กชายที่กำลังนอนรอการผ่าตัดอยู่ในห้อง
เมื่อคุณพ่อของเด็กเห็นหมอมาถึง เขาจึงตวาดหมอว่า
“ทำไมคุณหมอมาช้าแบบนี้ คุณไม่รู้หรือไง ว่าชีวิตของลูกผมกำลังอยู่ในอันตราย
คุณไม่มีสำนึกของความรับผิดชอบเลยหรือยังไง”

คุณหมอยิ้มและตอบว่า
“ผมขอโทษ , ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล
ผมพยายามมาให้เร็วที่สุดแล้วทันทีที่ได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาล
และตอนนี้ ผมหวังว่าคุณจะใจเย็นลงก่อน เพื่อที่ผมจะได้เข้าไปผ่าตัด”

“ใจเย็นหรอ ถ้าลูกคุณกำลังจะตายอยู่ในห้องผ่าตัด คุณจะใจเย็นอยู่ได้หรือยังไง ถ้าลูกผมตาย คุณจะทำยังไง”
พ่อของเด็กพูดด้วยความโกรธ

คุณหมอยิ้มอีกครั้ง และตอบคุณพ่อว่า
“ในคัมภีร์ไบเบิ้ลบอกไว้ว่า “คนเรากำเนิดมาจากดิน และวันหนึ่งเราก็จะคืนกลับสู่ดิน , ในนามของพระเจ้า”
หากคนคนหนึ่งถึงที่ตาย ไม่ว่าหมอจะทำอย่างไร เขาก็ต้องตาย
ตอนนี้สิ่งที่คุณทำได้ คือ ขอให้คุณรอและภาวนาเพื่อลูกชายของคุณ พวกเราจะพยายามทำอย่างเต็มที่และดีที่สุด”

“ถ้าไม่ใช่เรื่องของคุณเอง มันก็พูดง่ายสิ” คุณพ่อบ่นพึมพำกับตัวเอง

การผ่าตัดใช้เวลาหลายชั่วโมง
ในที่สุดคุณหมอก็เดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มและพูดว่า
“ขอบคุณพระเจ้า ลูกของคุณปลอดภัยแล้ว”

และโดยไม่รอให้คุณพ่อทันได้พูดอะไร หมอก็รีบวิ่งออกไปและหันหลังมาตะโกนบอกว่า
“ถ้าคุณมีคำถามอะไร ถามพยาบาลนะ”

“ทำไมหมอคนนี้หยิ่งจัง ทำไมเขาไม่รอสักนิดให้เราถามเรื่องอาการของลูกชายผมสักหน่อย”
คุณพ่อพูดกับพี่พยาบาลหลังจากที่หมอออกไปแล้ว

พี่พยาบาลพูดกับคุณพ่อด้วยน้ำตาคลอว่า
“ลูกชายของคุณหมอเพิ่งเสียชีวิตเมื่อวานจากอุบัติเหตุรถชน
เขากำลังอยู่ในงานศพของลูกชายขณะที่ถูกโทรตามให้มาผ่าตัดด่วนเพื่อช่วยชีวิตลูกของคุณ
ที่เขารีบวิ่งออกไป เพราะเขาจะรีบกลับไปงานศพของลูกชายต่อค่ะ”
------------------------------------------------

เราไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินหรือชี้ว่าสิ่งที่ใครคนหนึ่งทำนั้น "ถูก" หรือ "ผิด"
"ควรเป็น" หรือ "ไม่ควรเป็น" อย่างไร
เพราะเราไม่รู้ว่าชีวิตของเขาผ่านอะไรมาบ้าง...

ความผิดหวัง

 เปลี่ยนความผิดหวังให้เป็นพลัง

“ความหวัง” นับเป็นสิ่งหนึ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตเราให้มีพลังและมีแรงใจที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า เพราะความหวังคือเป้าหมายที่แต่ละคนใฝ่ฝันและมุ่งที่จะไปให้ถึง ซึ่งเมื่อเราสามารถที่จะไขว่คว้ามันมาไว้ในมือได้แล้ว นั่นก็คือความสำเร็จและความสุขอย่างหนึ่งที่เราต้องการได้ไว้ในครอบครอง
ไม่มีใครบนโลกนี้ที่ไม่เคยผิดหวัง และไม่มีใครที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ตั้งแต่วันแรกที่เกิดจนถึงวันที่สิ้นสุดลมหายใจโดยไม่เคยพบกับความผิดหวังและสักครั้ง เพราะอย่างน้อยการหยุดเต้นของหัวใจคนก็เป็นเรื่องที่สร้างความผิดหวังครั้งหนึ่งสำหรับเราทุกคน ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องหมายถึงเราแต่อาจหมายถึงหัวใจของบุคคลผู้ที่เป็นที่รักของเราด้วยก็ได้