วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สีม่วง

สีม่วงนี่ต้องแบ่งออกเป็นม่วงแดง (Purple) กับม่วงคราม (Violet) นะคะ เพราะความหมายของฝรั่งให้ไว้ต่างกัน  แต่ของไทยเราคงไม่ต่างกัน  เพราะหมายถึง สีแม่หม้าย  และปัจจุบันแปรเปลี่ยนจากแม่หม้าย กลายเป็นสีของผู้ชายไปแล้ว  แต่เป็นผู้ชายที่นิยมชายด้วยกัน เรียกว่าดอกไม้สีม่วง  อันนี้ลดาไม่ทราบว่าสีม่วงมาเกี่ยวข้องในความหมายนี้ได้ไง  ใครทราบวานบอก !  แต่ความหมายของฝรั่งนั้น  สีม่วงแดง เป็นเครื่องหมายแห่งอำนาจของผู้ปกครอง  ด้วยเหตุนี้บางครั้งจึงใช้เป็นสัญลักษณ์แทนพระเจ้า  และยังหมายถึงความโศกเศร้า และความสำนึกผิดได้ด้วย  ส่วนสีม่วงคราม เป็นสัญลักษณ์ของความรักก็ได้นะคะ (หาใช่สีชมพูหวานแหววไม่)  แต่ก็สื่อถึงความเจ็บปวดทรมานได้อีก  เช่นภาพพระแม่มารีบางภาพ ที่จะเห็นสวมชุดสีม่วง หลังจากพระเยซูถูกตรึงกางเขน

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ฝนฉ่ำฟ้าฉ่ำดินเรื่อยรินหยด
อ้อยสร้อยหมดจดพรำเมื่อฉ่ำสาย
ละอองพรมลมพรูดูพร่างพราย
ยะเยือกกาย..ละม้ายเช่น..เย็นฝนเย้า

อ้อยอิ่งทิ้งสายตรงลงพร่างพื้น
ระรินชื่นอื่นใดไหนเทียมเจ้า
ระลอกลมพรมพามาบางเบา
ปลอบใจเหงา..บรรเทาเงียบ..ที่เยียบเย็น

เปาะแปะแปะเปาะกระช้อยกระชด
กระเซ็นกระเซ้าเย้าหยดปานหยดเล่น
เหมือนทิ้งสายคลายร้าวเศร้าที่เป็น
ก็กลับเช่นฉ่ำใจได้ฉะนั้น

และรุ้งพร่างกางครอบขอบฟ้ากว้าง
ก็กระจ่างแจ่มหาวราวฟ้านั่น
ที่โค้งคุ้งรุ้งงามตามตาวัน
เจิดแจ่มบรรณแต้มโลกให้โศกคลาย

หรืออาลัยไม่จางจึงพร่างพื้น
หยาดหยดยืนคืนค่ำเจ้าฉ่ำสาย
พรมผืนหล้าจวบทิวามาเยี่ยมกราย
ยังไม่หายหยาดหยดหลั่งรดริน

หรือรีรอล้อเล่นทุกเย็นย่ำ
ถึงเช้าฉ่ำพรำสายหมายถวิล
เหมือนรอคอยรอยรักปักดวงจินต์
จึงมิสิ้นสเน่หาคราฝนพรำ...



วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Westlife - My Love

Westlife - Nothing's Gonna Change My Love For You [VietSub | Kara Effect...

Ladatipamon: ค ว า ม รั ก มั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ห ร...

Ladatipamon: ค ว า ม รั ก มั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ห ร...: ค ว า ม รั ก มั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ห รื อ? ใครต่อใครมักจะต้องเคยตั้งคำถามว่า ทำไมมีรักแล้วต้องมีทุกข์? ทำไมมีรักต้องเจ็...

ค ว า ม รั ก มั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ห รื อ?

ค ว า ม รั ก มั ก อ อ ก แ บ บ ไ ม่ ไ ด้ จ ริ ง ห รื อ?

ใครต่อใครมักจะต้องเคยตั้งคำถามว่า

ทำไมมีรักแล้วต้องมีทุกข์?
ทำไมมีรักต้องเจ็บปวด?
ทำไมมีรักต้องมีน้ำตา?

ทำไมรักไม่เป็นแบบนั้น
ทำไมรักไม่เป็นแบบนี้
ทำไมรักไม่เป็นในแบบที่เราต้องการ
          ????
นั่นเป็นเพราะ “ความรักออกแบบไม่ได้”

ปล่อยให้รักเป็นไปในแบบฉบับของความรัก
ถึงแม้นว่ารักนั้นจะออกมาในรูปแบบไหนก็ตาม
จงยอมรับไม่ว่าจะทุกข์ สุข เศร้า จะมีน้ำตา และรอยยิ้ม
...จงดีใจ ที่ในครั้งหนึ่ง...หัวใจคุณได้สัมผัสกับคำว่า “รัก”

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ต้นหอมและผักชี

ความรักของผักชีและต้นหอม

ก่อนกาลนานมาแล้ว... เจ้าชายผู้สง่างามแห่งอาณาจักรต้นหอมมีใจรักมั่นอยู่กับเจ้าหญิงแสนหวานแห่งเมืองผักชี แต่ความรักของทั้งสองนั้นมีอุปสรรคมากมาย


  " ไม่มีทางที่ต้นหอมจะรักกับผักชีได้ พันธุ์ผักชีต่ำเตี้ยเรี่ยดินเช่นนั้นรึจะมาเทียบชาวต้นหอมที่สูงส่งอย่างพวกเรา" ราชาต้นหอมยื่นคำขาด


  ส่วนราชาแห่งเมืองผักชีนั้นเล่าก็หมายตาเจ้าชายจากเมืองใ กล้ๆเอาไว้ให้เจ้าหญิงเช่นกัน


  "เจ้าชายคึ่นช่ายเหมาะกับลูกมากที่สุด แข็งแรง ซื่อตรง และสูงสง่า ไม่แพ้เจ้าชายต้นหอมเลย" ราชาผักชีพยายามหว่านล้อมเจ้าหญิง แต่ก็ไม่เป็นผล


  ถึงแม้จะถูกขัดขวางจากครอบครัวของทั้งสองฝ่าย แต่เจ้าชายและเจ้าหญิงก็ยังแอบมาพบกันเสมอในสวนเล็กๆแห่งหนึ่ง
  "จะมีที่ไหนในโลกอีกมั้ย ที่เราจะอยู่เคียงคู่กัน โดยไม่มีใครขัดขวาง"
เจ้าหญิงผักชีเอ่ย
  "ไม่ว่าไกลแสนไกลเพียงใด อยากลำบากเพียงไหน เราก็จะไปให้ถึงดินอดยอห่งนั้นให้จงได้" เจ้าชายให้คำมั่น


  ทั้งสองจึงวางแผนกันว่าจะแอบหนีไปด้วยกันในวันที่พระจันทร์เต็มดวง
  เมื่อถึงวันนัดหมาย ทั้งคู่พากันเดินทางไปจนเกือบจะพ้นดินแดนต้นหอม แต่ที่ตรงสุดเขตแดนนั้นเอง มีกองทหารของพระราชาต้นหอมเฝ้ายามอยู่อย่างแข็งขัน


  "เราจะผ่านทหารเหล่านี้ไปได้อย่างไรกัน" เจ้าหญิงกระซิบอย่างหวาดวิตก
  "อย่ากลัวไปเลย ยังมีอีกทางหนึ่งซึ่งจะพาเราออกจากดินแดนต้นหอมได้ แค่ไต่อ้อมไปทางหน้าผาที่ติดทะเลเท่านั้น" เจ้าชายอธิบาย "รับรองว่าไม่มีใครตามไปถูกแน่ๆเพราะทางออกด้านนี้เป็นความลับที่เคยใช้กันในสมัยปู่ของปู่เมื่อนานมาแล้ว"


  เจ้าชายกับเจ้าหญิงเดินทางต่อไปจนถึงทางออกสู่ทะเล แต่ที่แห่งนั้นอุปสรรคสำคัญที่สุดได้คอยทั้งคู่อยู่...พระราชาต้นหอมผู้โกรธเกรี้ยวนั่นเอง
  "เจ้ากล้าดีอย่างไงจึงขัดคำสั่งพ่อ" ราชาต้นหอมตะโกนก้องพร้อมเอื้อมมาถึงเจ้าชายให้แยกห่างออกจากเจ้าหญิงโดยทันที


  ด้วยความรีบร้อมผสมกับความโกรธ พระราชาที่อายุมากแล้วเกิดเสียหลักพลัดตกลงไปติดอยู่ตรงซอกหินริมหน้าผา โชคดีที่พระองค์ยังคว้าตัวเจ้าชายไว้ได้
  แต่ทว่า...พระราชาต้นหอมที่อวบอ้วน มีน้ำหนักมาก จนทำให้เจ้าชายต้นหอมรูปร่างผอมบาง ที่มีรากฝอยเล็กๆสั้นๆแทบจะยึดลำต้นกับดินไว้ไม่อยู่ ทั้งคู่เกือบจะพลัดตกลงไปในทะเลอยู่รอมร่อ


  ทันใดนั้นเอง...ลำต้นบอบบาง ทว่ามั่นคงด้วยความรักของเจ้าหญิงผักชีก็โอบล้อมเจ้าชายไว้ด้วยความรัก
  "อย่าทำเช่นนี้เลย ฉันไม่อยากให้เธอต้องตกลงไปพร้อมเราพ่อลูก ปล่อยมือเสียเถิด" เจ้าชายกล่าวอย่างเป็นห่วง
  "จะไม่มีใครตกลงไปทั้งนั้น ถึงต้นฉันจะดูบอบบาง แต่รากแก้วของฉันหยั่งลึก ลงไปในดินอย่างมั่นคง ไม่มีวันสั่นคลอน" เจ้าหญิงกล่าวพลางยิ้มหวาน และกอดเจ้าชายแน่นยิ่งขึ้นไปอีก


  ในเวลาต่อมา เมื่อพระราชาและเจ้าชายได้รับการช่วยเหลือให้กลับขึ้นมาอย่างปลอดภัย พระราชาต้นหอมผู้ยิ่งใหญ่หันไปกล่าวคำขอบใจแก่เจ้าหญิงด้วยท่าทีสุภาพอ่อนโยน ก่อนที่จะหันกลับมาประกาศก้องกับทหารและประชานที่ห้อมล้อมว่า
  "นันแต่นี้...เราจะไม่ขัดขวางความรักระหว่างเจ้าชายต้นหอมและเจ้าหญิงผักชีอีก ขอให้ทั้งสองอยู่เคียงคู่กันอย่างมีความสุขตลอดไป" พระราชาให้พร
  และเรื่องราวต่างๆต่อมาก็เป็นไปตามคำกล่าวนั้น


  เจ้าชายต้นหอมกับเจ้าหญิงผักชีอยู่เคียงคู่กันในทุกๆที่ ไม่ว่าจะเป็นดินแดนแคว้นใด แห่งหนตำบลไหน หรือแม้แต่ในชามก๋วยเตี๋ยว
  และเป็นตัวแทนของความรักอันมั่งคงเสมอมา

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Ladatipamon: เราจะรักกันได้ไหม...ถ้าเราต่างกันมาก

Ladatipamon: เราจะรักกันได้ไหม...ถ้าเราต่างกันมาก:   คนเรามีความแตกต่างกันทุกคน           ไม่มีใครเหมือนกันเลยในโลก           แต่จะมีสักกี่คน           ที่เดินไปบนเส้นทางเดียวกันได้อย่...

เราจะรักกันได้ไหม...ถ้าเราต่างกันมาก

  คนเรามีความแตกต่างกันทุกคน
          ไม่มีใครเหมือนกันเลยในโลก
          แต่จะมีสักกี่คน
          ที่เดินไปบนเส้นทางเดียวกันได้อย่างไม่เคอะเขิน
          ความรัก มีเงื่อนไขมากมายอย่างที่ฉันว่าจริงๆ 
          เพราะความรักระหว่างคู่รัก 
          ทั้งเขาและเธอต่างก็มุ่งปรารถนาที่จะมาอยู่ร่วมกัน 
          ใช้ชีวิตด้วยกัน ไปไหนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน 
          ทำอะไรหลายอย่างร่วมกัน จนถึงขั้นสร้างครอบครัวด้วยกัน 
ความรักในรูปแบบนี้จึงมีปัจจัยหลายอย่าง
          ที่ทำให้คนสองคนต้องคิดมากกว่าคำว่า "รัก" 

          เมื่อก่อนตอนที่เรายังไม่มีคู่ 
          ฉันกับเขาต่างคนต่างมีความฝันของตัวเอง 
          แต่เมื่อฉันมีแฟน...
          ความฝันนั้นก็ควรสอดคล้องต้องกันได้ 
          หรือสามารถปรับจนหาจุดสมดุลได้ 
          ไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปลี่ยน 
          ก็ต่างฝ่ายต่างยินดีเปลี่ยน
          เพื่อให้วันข้างหน้าสามารถมาบรรจบกันได้ 
          เหมือนอย่างกับพี่คนหนึ่งที่เคยพูดกันฉันว่า...
          ถ้ามีแฟน...แม้เรายังไม่ตัดสินใจเลือกเขามาร่วมชีวิตคู่ 
          เราก็ควรคุยกันว่าต่างคนต่างมีเป้าหมายชีวิตอย่างไร 
          แต่งงานกันแล้วจะเป็นยังไง ไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร มีลูกกี่คน 
     
          แต่ถ้าคิดกันไปคนละอย่าง 
          มองกันไปคนละมุม 
          เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย 
          ความต่างกัน ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะรักกันไม่ได้ 
          เพราะคู่รักส่วนใหญ่ก็มักมีอะไรหลายอย่างเหมือนกัน 
          และก็มีอะไรหลายอย่างต่างกันเช่นกัน 
    แต่ส่วนต่างที่เกิดขึ้น 
          ทำให้อีกฝ่ายมองเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยได้หรือเปล่า 
          หากเป็นเรื่องใหญ่ ความรักก็มักจะจบลงตรงคำว่า "เราไปกันไม่ได้" 
          
          แต่หากเราได้พูดคุยกันเพื่อขยับเส้นทางให้เดินมาชนกันได้ 
          ลดอะไรบางอย่างในตัวเองลงหรือเพิ่มอะไรบางอย่าง 
          เข้ามาในชีวิตอย่างเต็มใจ 
          เราจะเดินไปด้วยกันได้ในเส้นทางใหม่
          ที่เรายินยอมพร้อมใจกับเลือกทั้งสองคน






วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คุณเคยรักใครเหมือนนกนางแอ่นไหม? มีนกนางแอ่นสายพันธุ์หนึ่ง

     เกิดมามีคู่เดียวรักเดียวใจเดียว คู่ของมันโดนรถชนตาย ตัวผู้เลยเข้าไปดูตัวเมียแล้วร่ำไห้

      ร้องตะโกนหาคนที่ชนคู่ของมัน....แต่ตัวเมียได้ตายเสียแล้ว ...!!

                 ตามธรรมชาตินกพันธุ์นี้จะไม่ยอมมีคู่อีก...และมันจะเป็นเช่นนี้ทุกคู่ไป

                        และผลสุดท้ายของความรักของนกคู่นี้คือ.....

                               ตัวผู้จะนอนกกศพตัวเมียจนกว่ามันจะ

                      หมดแรงขาดใจตายไปในที่สุด ตายตามคนที่รักไป.......


                            แล้วในหนึ่งชีวิตของคุณ เคยรัก ใคร

     แล้วทุ่มเททั้งชีวิตแบบนี้หรือเปล่า.......ไม่ขอให้เทียบเท่าแค่ขอให้ยาวนาน 
 
 

วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Ladatipamon: มนุษย์ทุกคนล้วนมีความฝัน และ “ความฝัน” ก็มี “ความจ...

Ladatipamon: มนุษย์ทุกคนล้วนมีความฝัน และ “ความฝัน” ก็มี “ความจ...: มนุษย์ ทุกคนล้วนมีความฝัน และ “ความฝัน” ก็มี “ความจริง” เป็นข้อจำกัดหรือขีดจำกัดของมัน ผมหมายถึง ทุกครั้งที่เราฝัน (ไม่ว่าจะโดยการเพ้อฝ...
มนุษย์ ทุกคนล้วนมีความฝัน และ “ความฝัน” ก็มี “ความจริง” เป็นข้อจำกัดหรือขีดจำกัดของมัน ผมหมายถึง ทุกครั้งที่เราฝัน (ไม่ว่าจะโดยการเพ้อฝันกลางวันหรือนอนฝันกลางคืน) เราจะสามารถคิด สามารถเป็น สามารถมี และสามารถทำในสิ่งที่เราอาจจะทำได้ยากในโลกแห่งความเป็นจริง
อย่างไร ก็ตาม เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับการมีความฝัน ความฝันจะนำเราไปในทางที่เราคิดจะเป็น ความฝันจะนำเราไปสู่ความเป็นตัวตนของเราในแต่ละห้วงเวลา และความฝันก็คือสิ่งที่เป็นของของเราโดยแท้ ความฝันของใครก็ของมัน ไม่มีใครขโมยหรือแย่งชิงไปจากใครได้หรอก


เมื่อ เราผิดหวัง สิ้นหวัง เมื่อเราท้อแท้ เหนื่อยหน่าย หรือเมื่อเราเจอกับเรื่องราวที่ไม่อยากเจอในโลกแห่งความจริง เราก็เลือกที่จะหันกลับไปใช้ชีวิตในอีกรูปแบบ ที่เรารู้สึกว่ามันจะไม่ทำร้ายจิตใจเราให้แย่ไปกว่าเดิม นั่นคือ
1. “วิ่งหนีความจริง” และ 2. “วิ่งตามความฝัน”
แม้ ความฝันจะเป็นสิ่งที่งดงามสำหรับเรา แต่ในบางครั้งบางเวลา ก็เหมือนกับว่าเรากำลังตกลงไปอยู่ในหลุมพลางแห่งความฝัน จนหลงลืมและละเลยที่จะใช้ชีวิต ลืมการก้าวเดินและลงมือทำตามความฝัน กล้าที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคปัญหาและค้นพบความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่ง ความเป็นจริงไป

เรา อาจฝันว่า เราได้ออกเดินทางไปรอบโลก เราเป็นคนรวยที่สุด เรามีคนรักที่หล่อ/สวยที่สุด เราทำอะไรๆ ได้สำเร็จที่สุด แต่ผมพบว่า ความฝันคือความว่างเปล่า ผมกำลังพูดถึง ความฝันมันไม่มีตัวตนเลย ไม่ว่าเราจะฝันดีและรู้สึกดีกับความฝันมากแค่ไหน ในความเป็นจริงมันก็คือความว่างเปล่า
แต่ ไม่ว่าจะอย่างไรเสีย ผมยังก็เชื่อเสมอว่า เราไม่ควรหยุดที่จะฝัน การทำตามความฝันเป็นสิ่งที่ดี และมันควรเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย เราควรใช้ความฝันเป็นแรงผลักดันให้เราลงมือทำ “สร้างความว่างเปล่าให้จับต้องได้จริงๆ” นั่นแหละเป็นผลลัพธ์ที่หอมหวานที่สุดของการได้เดินตามความฝัน

แม้ ความฝันจะเป็นเพียงความว่างเปล่า แต่ก็มีหลายคนในโลก พยายามที่จะหยุดฝัน แล้วลงมือทำบางอย่าง เพื่อทำให้ความว่างเปล่าที่ว่า มันมีความหมายกับคนรอบข้างในความเป็นจริง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง


ความ หมายที่แท้จริงในการมีชีวิต จึงไม่ได้อยู่ในความฝันใดๆ “แต่มันอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงนี่แหละ” ยิ่งไปกว่านั้น มันอาจซ่อนอยู่ภายในตัวของเรานี่เอง
ใน ความฝัน เราอาจได้ครอบครองคนที่สุดแสนดี หรือเราอาจได้เดินทางไปไกลแสนไกล เพื่อแสวงหาความสุข ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง เราอาจไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เดินทางรอบโลกมาเยอะที่สุด หรือรวยที่สุด หรือมีแฟนหล่อสวยที่สุด หรือทำอะไรได้สำเร็จที่สุด แต่อาจเป็นการที่เราค้นเจอความหมายแห่งความสุขที่ซ่อนอยู่ 2 เซนติเมตรข้างในหน้าอกของเรา ยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งที่เรามีในวันนี้ตอนนี้ และหาความสุขจากสิ่งเหล่านั้นอย่างรู้คุณค่าของมันจริงๆ เท่านั้นเอง


วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Ladatipamon: มีเรื่องเล่าดีๆ ให้แง่คิด มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่าน...

Ladatipamon: มีเรื่องเล่าดีๆ ให้แง่คิด มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่าน...: มีเรื่องเล่าดีๆ ให้แง่คิด มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่านกันค่ะ ------------------------------------------------------------ -อย่าได้ตัดสินผู้...
มีเรื่องเล่าดีๆ ให้แง่คิด มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่านกันค่ะ
------------------------------------------------------------
-อย่าได้ตัดสินผู้อื่น-

คุณหมอท่านหนึ่งกำลังวิ่งเข้าสู่โรงพยาบาลด้วยความเร่งรีบ
หลังจากที่ถูกโรงพยาบาลโทรตามเพื่อไปผ่าตัดฉุกเฉินให้ผู้ป่วยเด็กรายหนึ่ง
เขารีบร้อนไปที่โรงพยาบาลทันทีที่ได้รับรายงานเรื่องผู้ป่วย เปลี่ยนชุดผ่าตัด
และตรงไปยังห้องผ่าตัดโดยเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

ที่ทางเดินหน้าห้องผ่าตัด เขาได้พบกับพ่อของเด็กชายที่กำลังนอนรอการผ่าตัดอยู่ในห้อง
เมื่อคุณพ่อของเด็กเห็นหมอมาถึง เขาจึงตวาดหมอว่า
“ทำไมคุณหมอมาช้าแบบนี้ คุณไม่รู้หรือไง ว่าชีวิตของลูกผมกำลังอยู่ในอันตราย
คุณไม่มีสำนึกของความรับผิดชอบเลยหรือยังไง”

คุณหมอยิ้มและตอบว่า
“ผมขอโทษ , ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล
ผมพยายามมาให้เร็วที่สุดแล้วทันทีที่ได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาล
และตอนนี้ ผมหวังว่าคุณจะใจเย็นลงก่อน เพื่อที่ผมจะได้เข้าไปผ่าตัด”

“ใจเย็นหรอ ถ้าลูกคุณกำลังจะตายอยู่ในห้องผ่าตัด คุณจะใจเย็นอยู่ได้หรือยังไง ถ้าลูกผมตาย คุณจะทำยังไง”
พ่อของเด็กพูดด้วยความโกรธ

คุณหมอยิ้มอีกครั้ง และตอบคุณพ่อว่า
“ในคัมภีร์ไบเบิ้ลบอกไว้ว่า “คนเรากำเนิดมาจากดิน และวันหนึ่งเราก็จะคืนกลับสู่ดิน , ในนามของพระเจ้า”
หากคนคนหนึ่งถึงที่ตาย ไม่ว่าหมอจะทำอย่างไร เขาก็ต้องตาย
ตอนนี้สิ่งที่คุณทำได้ คือ ขอให้คุณรอและภาวนาเพื่อลูกชายของคุณ พวกเราจะพยายามทำอย่างเต็มที่และดีที่สุด”

“ถ้าไม่ใช่เรื่องของคุณเอง มันก็พูดง่ายสิ” คุณพ่อบ่นพึมพำกับตัวเอง

การผ่าตัดใช้เวลาหลายชั่วโมง
ในที่สุดคุณหมอก็เดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มและพูดว่า
“ขอบคุณพระเจ้า ลูกของคุณปลอดภัยแล้ว”

และโดยไม่รอให้คุณพ่อทันได้พูดอะไร หมอก็รีบวิ่งออกไปและหันหลังมาตะโกนบอกว่า
“ถ้าคุณมีคำถามอะไร ถามพยาบาลนะ”

“ทำไมหมอคนนี้หยิ่งจัง ทำไมเขาไม่รอสักนิดให้เราถามเรื่องอาการของลูกชายผมสักหน่อย”
คุณพ่อพูดกับพี่พยาบาลหลังจากที่หมอออกไปแล้ว

พี่พยาบาลพูดกับคุณพ่อด้วยน้ำตาคลอว่า
“ลูกชายของคุณหมอเพิ่งเสียชีวิตเมื่อวานจากอุบัติเหตุรถชน
เขากำลังอยู่ในงานศพของลูกชายขณะที่ถูกโทรตามให้มาผ่าตัดด่วนเพื่อช่วยชีวิตลูกของคุณ
ที่เขารีบวิ่งออกไป เพราะเขาจะรีบกลับไปงานศพของลูกชายต่อค่ะ”
------------------------------------------------

เราไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินหรือชี้ว่าสิ่งที่ใครคนหนึ่งทำนั้น "ถูก" หรือ "ผิด"
"ควรเป็น" หรือ "ไม่ควรเป็น" อย่างไร
เพราะเราไม่รู้ว่าชีวิตของเขาผ่านอะไรมาบ้าง...

ความผิดหวัง

 เปลี่ยนความผิดหวังให้เป็นพลัง

“ความหวัง” นับเป็นสิ่งหนึ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตเราให้มีพลังและมีแรงใจที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า เพราะความหวังคือเป้าหมายที่แต่ละคนใฝ่ฝันและมุ่งที่จะไปให้ถึง ซึ่งเมื่อเราสามารถที่จะไขว่คว้ามันมาไว้ในมือได้แล้ว นั่นก็คือความสำเร็จและความสุขอย่างหนึ่งที่เราต้องการได้ไว้ในครอบครอง
ไม่มีใครบนโลกนี้ที่ไม่เคยผิดหวัง และไม่มีใครที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ตั้งแต่วันแรกที่เกิดจนถึงวันที่สิ้นสุดลมหายใจโดยไม่เคยพบกับความผิดหวังและสักครั้ง เพราะอย่างน้อยการหยุดเต้นของหัวใจคนก็เป็นเรื่องที่สร้างความผิดหวังครั้งหนึ่งสำหรับเราทุกคน ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องหมายถึงเราแต่อาจหมายถึงหัวใจของบุคคลผู้ที่เป็นที่รักของเราด้วยก็ได้

วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เหนื่อย

เคยไหม ที่เหนื่อย มากมายนัก
เคยไหม เหมือนจมปลัก มากใหญ่หลวง
เคยไหม อยากจะทิ้ง สิ่งทั้งปวง
เคยไหม น้ำตาร่วง เป็นทางที

งานมากมาย เข้ามา ไม่มีหมด
ไม่เคยลด ลงไป ในวันนี้
งานนี้เสร็จ อีกงานเข้า ไม่มีดี
อยากจะหนี บางครั้ง ทั้งหมดแรง

ในบางครั้ง ก็ฝืน และยืนสู้
อยากปล่อยดู สักครั้ง ยังไม่แกล้ง
แต่ไม่รู้ จะให้ ใครแสดง
อยากจะแบ่ง งานออก จะบอกใคร

อยากจะหลบ ไปพัก อีกสักครั้ง
ขอพลัง หลบบ้าง ยังสู้ไหว
ยามเหน็ดเหนื่อย หาคน มาปลอบใจ
มีบ้างไหม วันนี้ ที่ผ่านมา

อยากจะหลับ เพื่อหลบ และกลบฝัง
เพิ่มพลังให้ฟื้นคืนมาหนา
หลับแล้วตื่น ไม่ฝืน เมื่อลืมตา
ความอ่อนล้าที่มี นี้อาจจาง

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แม้รู้มีหนามแหลมที่แซมช่อ
ยังหมายรอร่ำหาเกินกว่าหัก-
ห้ามหัวใจหยุดปลื้มลืมยากนัก
แม้ประจักษ์สุขนั้นเพียงฝันไป

มีหรือใครหลุดพ้นวังวนบ้าง
แม้กล่าวอ้างแข็งขันไม่หวั่นไหว
เมื่อจิตจรดรสหวานรินผ่านใจ
ฤๅห้ามได้ไม่ลิ้มหลงชิมตาล

จึงคร่ำครวญหวนไห้ยามไกลห่าง
เมื่อเลิกร้างอาลัยในรสหวาน
แม้จะกลายเป็นขมเข้าล่มมาน
ยอมให้ผลาญพร่าตนจนแหลกลง

รักไม่ร้างไม่ลายังอาศัย
มีอยู่ทุกหัวใจใช่ว่าหลง
บ้างสุขสดชื่นล้ำดั่งจำนง
บ้างแทบปลงชีพรานถูกผลาญรัก
 

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Ladatipamon: ชื่อว่าความรัก

Ladatipamon: ชื่อว่าความรัก: กาลครั้งหนึ่ง... มีเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า 'ความรัก' ความรักไม่รู้ว่าเขาเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เขาไม่เคยเห็นผู้ให้กำเนิด &#39...

ชื่อว่าความรัก

กาลครั้งหนึ่ง...
มีเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า 'ความรัก'
ความรักไม่รู้ว่าเขาเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เขาไม่เคยเห็นผู้ให้กำเนิด
'ความรัก' เกิดมาท่ามกลางความมืดมนและว่างเปล่า...
ความรักเฝ้าตามหาอะไรบางอย่างที่ทำให้ตัวเขารู้สึกไม่เหน็บหนาว
เขาอ้างว้าง เขาสับสน เขาอยู่คนเดียวมานานเกินพอ...
...เขารู้สึกว่าอะไรยังขาดหายไป
ความรักเริ่มออกเดินทางบนถนนสายที่ไม่มีจุดเริ่มต้น...
ถนนสายนี้ทอดยาวไกลไปในความมืดมิด...และดูท่าไม่มีที่สิ้นสุด
ความรักเริ่มท้อใจ...เมื่อไหร่เขาจะเจอเพื่อนร่วมทางเสียที...
แสงสว่างเล็กๆ กระพริบพราวท่ามกลางความมืดรอบกาย แล้วหายไป...
ความรักดีใจมาก ในที่สุดก็มีแสงสว่างจุดขึ้นมาแล้ว
เขาเดินเข้าใกล้...และพบกับใครคนหนึ่งที่นั่งกอดเข่าอยู่เดียวดาย...เธอคนนั้นคือ 'ความจริงใจ'...
ความจริงใจบอกกับความรักว่าเธอถูกสั่งให้มาเฝ้ารอใครสักคน...
เธอนั่งอยู่ตรงนี้นานแล้ว...นานจนแทบจะหมดหวัง...
เธอเห็นแสงสว่างอยู่ไกลๆ...และความรักก็เข้ามาหาเธอ
ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน...ไม่ต้องให้มีใครบอกเขาก็รู้ พวกเขาทั้งคู่ต้องก้าวไปด้วยกัน...
ความรักส่งมือให้ความจริงใจจับเอาไว้ แล้วพวกเขาก็เริ่มก้าวเดิน...
ก้าวที่ทั้งสองเดินไปค่อยๆย่างอย่างช้าๆ...ไม่รีบร้อน
อาจจะมีมรสุมพัดกระหน่ำเข้ามาบ้างแต่มือที่จับกันเอาไว้ไม่เคยปล่อย... ผ่านลมที่โหมกระหน่ำ
ผ่านความมืดและความเหน็บหนาว... ผ่านหลายๆสิ่งมาด้วยกัน
และแล้วก็มีเด็กน้อยๆสองคนจูงมือกันเข้ามา...
เด็กน้อยคนหนึ่งที่ดูบอบบางและอ่อนแอราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
แต่อีกคนกลับดูเข้มแข็ง...และคอยปกป้องอีกคนเสมอ
พวกเขาแนะนำตัวว่าเขาคือ 'ความประทับใจ' และ 'ความผูกพัน'
ความรักและความจริงใจอุ้มเด็กทั้งสองมาแล้วร่วมเดินบนเส้นทางไปด้วยกัน...
เส้นทางที่เคยมืดสนิทเริ่มมีแสงจางๆส่องรำไร... ถนนสายที่ดูยาวไกลไม่สิ้นสุด ตอนนี้กลับเห็นปลายทางสว่างริบหรี่......ในใจของพวกเขาเกิดความหวัง...เส้นทางที่พวกเขารอคอยใกล้เข้ามาถึงแล้ว
แต่แล้ว! ก็มีเงาทะมึนมาทาบทับ เงาปีศาจสองตัวโอบล้อมพวกเขาเอาไว้
เจ้าปีศาจแนะนำตัวเองว่ามันคือ 'ความแตกร้าว' และ 'ความเศร้า'
...พวกมันต้องการจะจับความรักไป...
เด็กน้อยที่ชื่อความประทับใจร้องไห้จ้า มันกลัวเหลือเกิน ยิ่งร้องไห้ ร่างบอบบางนั้นยิ่งจางลงราวกับจะสลายไป...
ความผูกพันโผเข้ากอดความประทับใจแน่น... เขาค่อยๆปลอบจนความประทับใจหยุดสะอื้น...
ร่างกายของเด็กน้อยนั้นกลับมามีรูปร่างดังเดิม...
ในขณะที่ปีศาจทั้งสองตนมีสีหน้าตื่นกลัว...ร่างของมันเองที่กำลังสลายไปช้าๆ
ความ รักกับความจริงใจเห็นดังนั้นจึงกอดเด็กน้อยทั้งสองแน่น ร่างทั้งสี่กอดกันกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียว ความแตกร้าวและความเศร้ากรีดร้อง...
..แล้วมันก็สลายไป
ทั้งสี่ส่งยิ้มให้กัน...พวกเขาทำสำเร็จแล้ว!
ทันใดนั้นเอง... แสงสว่างก็แยงจ้าไปทั่ว... ความรักรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังลอยขึ้นช้าๆ...ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณู...เสียงปริศนาที่มีชื่อว่า 'ความสุข' ดังก้อง...
"พวกเจ้าเข้าใจแล้วใช่ไหม? ว่าทำไมข้าถึงให้พวกเจ้ามาเดินทางร่วมกัน...
...นับตั้งแต่วันนี้ไป...พวกเจ้าจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ข้าจะให้ชื่อของพวกเจ้าว่า 'ความสัมพันธ์' "
..ทั้งสี่ถูกรวมเป็นคนใหม่คนเดียวกัน...ร่างกายที่ดูแข็งแกร่งและมั่นคงกว่าเดิม...และพร้อมเผชิญกับทุกปัญหา...
พวกเขาเข้าใจแล้วว่า...เขาเกิดมาทำไม...
มีความรัก ความจริงใจ จึงเกิดความประทับใจ แล้วกลายเป็นความผูกพัน
บางครั้งอาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้เกิดความแตกร้าวและความเศร้า อาจจะทำให้ความประทับใจลดน้อยลง
แต่ความผูกพันก็ยังเหนี่ยวรั้งทุกอย่างเอาไว้...

...แต่สุดท้าย ทุกอย่างจะผ่านไปได้ต้องมีพื้นฐานคือความรักและความจริงใจ... นี่แหล่ะค่ะ ความสัมพันธ์ของคนสองคน

วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Ladatipamon: =ชีวิตรันทด

Ladatipamon: =ชีวิตรันทด: ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยสัมผัสกับคำว่าความสุขใดใดเลยแม้สักครั้ง อาจมีบ้างที่รู้สึกชื่นชมตอนรับปริญญาแล้วทุกอย่างก้อเหมือนเดิมโดดเดี่ยว ว้า...

=ชีวิตรันทด

ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยสัมผัสกับคำว่าความสุขใดใดเลยแม้สักครั้ง
อาจมีบ้างที่รู้สึกชื่นชมตอนรับปริญญาแล้วทุกอย่างก้อเหมือนเดิมโดดเดี่ยว
ว้าเหว่   อ้างว้าง
หาคนจริงใจด้วยค่อนข้างยาก
จะมีข้าราชการคนใดในประเทศไทยจะอัตคัดขัดสนมากมายอย่างเรามั่งนะ
กำหนดวันสอบมาถึงแล้วแต่เรายังไม่พร้อมเลยทั้งค่ารถค่าที่พักค่าอาหารต้องไปพักตั้งสองคืนจะเอาเงินที่ไหนไปสอบล่ะคะเนี่ย
เงินในบัญชีก้อถอนมาสมัครสอบหมดแล้วพูดแล้วน้ำตาก็ไหลร้องไห้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วต่อให้ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดก็ช่วยอะไรเราไม่ได้เมื่อมันต้องเป็นและมันก็ต้องเกิด
เราคงไม่มีปัญญาไปสอบแน่ๆไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนเป็นค่าเดินทางอุตส่าห์อ่านหนังสือมาเป็นเดือนๆ
ท้ายที่สุดก้อไม่มีปัญญาไปสอบจนได้
ทำไมนะทำไมเราถึงเกิดมายากแค้นแสนเข็ญแบบนี้
น้อยใจตัวเองจริงๆเราต้องสอบวันที่26-27กค.นี้ที่ม.เกื้อการุญฯตอนนี้เรายังไม่มีแม้แต่เงินค่าเดินทางเลยแม้แต่บาทเดียวภาระมันมากมายต้องเลี้ยงคนอีกตั้งสามคน โดยใช้เงินเดือนของเราทั้งนั้น
เราไม่เคยเรียกร้องอะไรจากใครไม่ต้องการคำเห็นใจจากใครในเมื่อมันคือกรรมเวรของเราเอง
ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าผู้หญิงตัวคนเดียวแบบเราต้องรับผิดชอบทุกอย่างรับผิดชอบคนอีกสามคนเงินเดือนเหลือสองพันกว่าบาทเเล้วเราจะเอาอะรัยมาให้พวกเค้ากินกันล่ะเนี่ยแถมต้องไปสอบอีกถ้าไม่สอบเราก็คงหมดโอกาสทำงานการพยาบาลคิดเรื่องนี้ทุกวันร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน
เราเป็นข้าราชการแบบนี้คนอื่นๆเค้าก็มีเงินเก็บกันทั้งนั้นแต่เราเงินได้มาก็ต้องมาซื้อหาเลี้ยงคนที่บ้านช่างน่าเศร้าจริงๆแค่อยากระบายแค่อยากหาทางปลดปล่อยความเครียดเท่านั้น
แต่ที่สำคัญสุดคือเราเสียดายที่จะไม่ได้ไปสอบเพราะผลกระทบเยอะมากพิมพ์ไปร้องไห้ไปเสียใจมากเงินก้อนสุดท้ายถอนไปลงทะเบียนสอบหมดแล้ว
จะกินยังแทบไม่มี
คิดแล้วไม่น่าเชื่อนี่แหละหรือข้าราชการ
อาชีพที่มั่นคง
แม้แต่เงินสักห้าร้อยติดตัวยังไม่มีเลยเหลือเชื่อจริงๆนะคะ
หัวอกช้าราชการไทย......./ลดาทิพามนต์


เหงา และ ฝันดี

ขอเธอไว้ในความฝัน
อยากให้ความคิดถึงของฉันผูกพันเธอไว้ที่นี่
ขอเป็นความรักของฉันได้ไหม ที่ติดตามเธอไปทุกวินาที
ขอเป็นความห่วงใยที่ฉันมี
โอบกอดเธอให้ฝันดี....ตลอดคืน

ข้อความดีๆ ในการ์ดสีหวาน
เก็บไว้มานานเอาไว้อ่าน..ยามเหงา
มองฟ้าสีอ่อนแล้ว..นึกถึงเรา
ภาพดีๆ วันใสๆ ในวันเก่าก็..ย้อนมา
แค่หนึ่งข้อความของเธอ ว่า..ห่วงใย
อ่านกี่ครั้งก็ยิ้มได้..อย่างเริ่งร่า
อบอุ่นหัวใจจนระบายสี..ในแววตา
คิดถึงเธอทีไรก็รู้สึกได้ว่า"ฉันรักเธอ"

ได้ทักทายได้เจอหน้า
ได้ถามความเป็นมาอยู่เสมอ
ได้พูดคุย ได้อยู่ใกล้ ได้พบเจอ
ได้รับรู้ว่าเธอยังสุขใจ
กินนอนหลับฝันดีแล้วนะคืนนี้
จะฝันว่ามีวัน ดี ดี มีเธอร่วมอ่อนไหว
ถึงจะเป็นไปได้แค่ความฝัน
ที่ความเป็นจริงไม่มีอะไร
ก็ยังดี กว่าไม่มีใครไว้ในใจให้แอบอิง

สุดเส้นสายปลายทางแห่งความเหงา
ยังว่างเปล่าโดดเดี่ยวและสับสน
ไม่เหลือใครร่วมทางแม้สักคน
สู้บนหนทางเปลี่ยวอย่างเดียวดาย

อยากจะมี เธอทุกครั้ง ยามเงียบเหงา
อยากจะมี เธอเป็นเงา ทุกแห่งหน
อยากจะมี เธอข้างกาย ยามร้อนรน
อยากจะมี เพียงสักคน คอยปลอบใจ
 

วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Ladatipamon: ความรัก

Ladatipamon: ความรัก: ...ท้องฟ้า แผ่นดิน ​​และผืนน้ำ...​​ ​​แม้ว่า​​จะเราอยู่​​ห่างไกลกัน...​​​​แต่ทุกครั้งยาม​​ที่ฝนตกลงมา...​​ ก็​​เป็น​​เพราะเราส่ง​​ความ...

ความรัก

...ท้องฟ้า แผ่นดิน ​​และผืนน้ำ...​​
​​แม้ว่า​​จะเราอยู่​​ห่างไกลกัน...​​​​แต่ทุกครั้งยาม​​ที่ฝนตกลงมา...​​
ก็​​เป็น​​เพราะเราส่ง​​ความคิดถึง ​​ความห่วงใย ของพวกเรา​​ที่มีให้ต่อกัน..
ความ​เป็น​เพื่อน​ระหว่างพวกเราไม่เคยจางหาย​ไปใช่ไหม? ท้องฟ้า แผ่นดิน ​และผืนน้ำ...​​แม้ว่า​จะเราอยู่​ห่างไกลกัน...​​แต่ทุกครั้งยาม​ที่ฝนตกลง มา ก็​เป็น​เพราะเราส่ง​ความคิดถึง ​ความห่วงใย ของพวกเรา​ที่มีให้ต่อกัน ส่งลงมา​และมารวมตัวกันกลาย​เป็นสายฝน​ที่เย็นชุ่มฉ่ำให้แก่บนโลกใบนี้...​
สายฝนจาก​ความรัก...​
เมื่อก่อนนี้ ท้องฟ้า แผ่นดิน ​และผืนน้ำ ​เป็น​เพื่อนรักกัน ​ทั้งสามอยู่​ใกล้ชิดกัน จนกระทั่งโลก​ได้กำเนิดพืช​และสัตว์ขึ้น​...​
แผ่นดิน​และผืนน้ำก็มัว​แต่ดูแล​เอาใจใส่พืช​และสัตว์ จนละเลย​​และไม่สนใจท้องฟ้า
ท้องฟ้าก็เริ่มรู้สึกน้อยใจ ​และถอยตัวห่างออก​ไป...​. ...​ ห่างออก​ไปทุกที ทุกที...​

จนถึงวัน​ที่มีนกตัวแรกออกโบยบิน
แผ่นดิน​และผืนน้ำจึง​ได้รู้ว่าท้องฟ้า​ได้จาก​ไปไกลแสนไกล...​


แผ่นดิน​และผืนน้ำพยายามส่งเสียงเรียกท้องฟ้า
​แต่ท้องฟ้าอยู่​ไกลมากเลย​ไม่​ได้ยินเสียงร้องเรียกของ​เพื่อน​ทั้งสอง...​

นกตัวนั้น​จึงอาสา​ที่​จะ​ไปบอก​กับท้องฟ้า ...​
นกก็บินสูงขึ้น​ สูงขึ้น​ สูงขึ้น​ ​และส่งเสียงเรียก
​แต่เสียงนกนั้น​เบาเกิน​ไป...​​ไปไม่ถึงท้องฟ้า
​แต่นกก็สัญญาว่า...​.ต่อ​ไปนี้นกทุกตัว​จะบินขึ้น​สู่ท้องฟ้า
​เพื่อนำข่าวจากแผ่นดิน​และผืนน้ำ​ไปบอก...​

ผืนน้ำ​และแผ่นดินรู้สึกเศร้าใจ​ที่​เพื่อน​ได้ห่างออก​ไปไกล
​และคิดถึง​เพื่อนเหลือเกิน...​.
ผืนน้ำพยายามยกตัวสูงจนตั้งตระหง่าน
​แต่นั่นก็ยังสูงไม่พอ ยังไม่ใกล้ท้องฟ้า...​


​พระอาทิตย์​ซึ่งเฝ้ามองดูเหตุการณ์มา​โดยตลอด ก็บอก​กับ​ทั้งสองว่า "เราอาจ​จะช่วยพวกเจ้า​ได้"...​

​พระอาทิตย์จึงอาสาช่วย ​โดยการส่องแสงลงมายังผืนน้ำ​และแผ่นดิน ทำให้ระเหยกลาย​เป็นไอ ลอยตัว​ไปรวมกัน​เป็นก้อนเมฆ ลอยขึ้น​​ไปบอกข่าวแก่ท้องฟ้า...​

เล่าเรื่อง​ราวต่าง ๆ​ ตาม​ที่ แผ่นดิน​และผืนน้ำ​ได้พบเจอมา ​และบอกว่าแผ่นดิน​และผืนน้ำคิดถึงมาก อยากให้ท้องฟ้าลงมาสนิทแนบชิดเหมือน​เมื่อก่อน ท้องฟ้า​ได้รับรู้เรื่อง​ราว ก็รู้สึกเสียใจ ​แต่ก็กลับลง​ไปไม่​ได้...​.

"ฉันกลับลง​ไปไม่​ได้หรอก ​เพราะฉันเติบโตขึ้น​ ​และอยู่​สูงเกิน​ไป ลง​ไปไม่​ได้แล้ว​ ฉัน​ได้แผ่ขยายตัวเองจนกว้างขวาง ​ที่ฉันทำ​ได้ก็เพียง​แต่เฝ้ามองดูอยู่​ไกล ๆ​ ​และโอบกอดแผ่นดิน​และผืนน้ำไว้อย่างอ่อนโยนเท่านั้น​...​

​และถึง​แม้​จะมีนกบินมาส่งข่าว ​แต่ฉันก็ยังคิดถิงแผ่นดิน​และผืนน้ำ ​และอยาก​จะบอก​กับ​ทั้งสองว่า "ฉันเองคิดถึง​เพื่อนมากมาย​เพียงใด...​"

ก้อนเมฆก็ตอบว่า "อยู่​บนนี้นาน ๆ​ ก็เหงาเหมือนกัน บางทีก็อยากกลับลง​ไปข้างล่างบ้าง "ท้องฟ้าเลย​บอกว่า" ฉันก็เหงาเหมือนกัน ​แต่ว่าฉันกลับลง​ไปไม่​ได้...​

​แต่เจ้าลง​ไป​ได้นี่ ​ถ้าอย่างนั้น​ฉัน​จะส่งกลับลง​ไป ​และ​ความคิดถึงของฉันก็หนักมากพอ​ที่​จะส่งพวกเจ้าลง​ไปหมด​ทั้งท้องฟ้า" จากนั้น​ก้อนเมฆ​ทั้งหมดก็รวมตัวกัน ​และรวมเข้า​กับ​ความคิดถึงอันมากมาย​ของท้องฟ้า...​
แล้ว​ตกลงมา​เป็นหยาดฝน ส่ง​ความรัก ​ความคิดถึงมายังแผ่นดิน​และผืนน้ำ จึงไม่แปลก ​ถ้า​เมื่อใดฝนตก แล้ว​เรา​จะรู้สึกคิดถึงคน​ที่เรารัก คน​ที่เราผูกพันธ์ ...​...​...​​และบางครั้ง ท้องฟ้าก็ส่ง​ความเหงาลงมาด้วย...​...​.

เมฆหมอกสีเทา รวมจับตัวกันอยู่​บนฟ้านั้น​ ​พร้อม​ทั้งสายฝน​ที่​กำลังตกลงมา...​
​ได้ส่ง​ความคิดถึง ​ความเหงามาให้​กับเรา...​
ก็​ได้​แต่บอก​กับตัวเองว่า...​เราคิดถึงเธอจัง...​


ขอบคุณสำหรับข้อ​ความดีๆ​ มี​ความหมายจากสหายผู้น่ารักเสมอมา...​