มนุษย์
ทุกคนล้วนมีความฝัน และ “ความฝัน” ก็มี “ความจริง”
เป็นข้อจำกัดหรือขีดจำกัดของมัน ผมหมายถึง ทุกครั้งที่เราฝัน
(ไม่ว่าจะโดยการเพ้อฝันกลางวันหรือนอนฝันกลางคืน) เราจะสามารถคิด
สามารถเป็น สามารถมี
และสามารถทำในสิ่งที่เราอาจจะทำได้ยากในโลกแห่งความเป็นจริง
อย่างไร
ก็ตาม เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับการมีความฝัน
ความฝันจะนำเราไปในทางที่เราคิดจะเป็น
ความฝันจะนำเราไปสู่ความเป็นตัวตนของเราในแต่ละห้วงเวลา
และความฝันก็คือสิ่งที่เป็นของของเราโดยแท้ ความฝันของใครก็ของมัน
ไม่มีใครขโมยหรือแย่งชิงไปจากใครได้หรอก
เมื่อ
เราผิดหวัง สิ้นหวัง เมื่อเราท้อแท้ เหนื่อยหน่าย
หรือเมื่อเราเจอกับเรื่องราวที่ไม่อยากเจอในโลกแห่งความจริง
เราก็เลือกที่จะหันกลับไปใช้ชีวิตในอีกรูปแบบ
ที่เรารู้สึกว่ามันจะไม่ทำร้ายจิตใจเราให้แย่ไปกว่าเดิม นั่นคือ
1. “วิ่งหนีความจริง” และ 2. “วิ่งตามความฝัน”
1. “วิ่งหนีความจริง” และ 2. “วิ่งตามความฝัน”
แม้
ความฝันจะเป็นสิ่งที่งดงามสำหรับเรา แต่ในบางครั้งบางเวลา
ก็เหมือนกับว่าเรากำลังตกลงไปอยู่ในหลุมพลางแห่งความฝัน
จนหลงลืมและละเลยที่จะใช้ชีวิต ลืมการก้าวเดินและลงมือทำตามความฝัน
กล้าที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคปัญหาและค้นพบความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่ง
ความเป็นจริงไป
เรา
อาจฝันว่า เราได้ออกเดินทางไปรอบโลก เราเป็นคนรวยที่สุด
เรามีคนรักที่หล่อ/สวยที่สุด เราทำอะไรๆ ได้สำเร็จที่สุด แต่ผมพบว่า
ความฝันคือความว่างเปล่า ผมกำลังพูดถึง ความฝันมันไม่มีตัวตนเลย
ไม่ว่าเราจะฝันดีและรู้สึกดีกับความฝันมากแค่ไหน
ในความเป็นจริงมันก็คือความว่างเปล่า
แต่
ไม่ว่าจะอย่างไรเสีย ผมยังก็เชื่อเสมอว่า เราไม่ควรหยุดที่จะฝัน
การทำตามความฝันเป็นสิ่งที่ดี และมันควรเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย
เราควรใช้ความฝันเป็นแรงผลักดันให้เราลงมือทำ
“สร้างความว่างเปล่าให้จับต้องได้จริงๆ”
นั่นแหละเป็นผลลัพธ์ที่หอมหวานที่สุดของการได้เดินตามความฝัน
ความ
หมายที่แท้จริงในการมีชีวิต จึงไม่ได้อยู่ในความฝันใดๆ
“แต่มันอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงนี่แหละ” ยิ่งไปกว่านั้น
มันอาจซ่อนอยู่ภายในตัวของเรานี่เอง
ใน
ความฝัน เราอาจได้ครอบครองคนที่สุดแสนดี หรือเราอาจได้เดินทางไปไกลแสนไกล
เพื่อแสวงหาความสุข ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง
เราอาจไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เดินทางรอบโลกมาเยอะที่สุด หรือรวยที่สุด
หรือมีแฟนหล่อสวยที่สุด หรือทำอะไรได้สำเร็จที่สุด
แต่อาจเป็นการที่เราค้นเจอความหมายแห่งความสุขที่ซ่อนอยู่ 2
เซนติเมตรข้างในหน้าอกของเรา
ยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งที่เรามีในวันนี้ตอนนี้
และหาความสุขจากสิ่งเหล่านั้นอย่างรู้คุณค่าของมันจริงๆ เท่านั้นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น